เดือนมกราคมปี 1994 คู่หูนักศึกษาสแตนฟอร์ดสองคน เจอร์รี่ หยาง และ เดวิด ไฟโล ได้สร้างเว็บไซต์ที่ชื่อว่า "Jerry's Guide to the World Wide Web"เป็นเว็ปไซ์ประเภทที่รวบรวมlinkต่างๆเข้าเป็นหมวดเป็นหมู่ เพื่อง่ายต่อการค้นหา หลังจากนั้นเดือนเมษายนของปีนั้น ชื่อของเว็ปไซต์ก็ได้เปลี่ยนเป็น YAHOO!(ชื่อเต็มมีชื่อว่าYet Another Hierarchical Officious Oracle) และในตอนนั้นในชื่อwebว่า akebono.stanford.edu/yahoo และในปลายปีนั้นYAHOO! ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มียอดการใช้งานเว็ปไซต์ถึง 1 ล้านฮิตเลยที่เดียว ดังนั้นคู่หูคู๋นี้จึงคิดว่าเว็ปไซต์ที่เค้าคิดขึ้นมาทำเพื่อสนุกๆ อาจสามารถทำเปนธุรกิจได้ก็ได้ และในเดือน มีนาคม ปีถัดไปนั้นเอง พวกเค้าจึงจัดตั้งYAHOOขึ้นเป็นบริษัท
YAHOO! คล้ายกับเว็บเสิร์ชเอนจิน และเว็บไดเร็คทอรี่หลายๆ แห่ง YAHOO!ได้ขยายตัวเองเป็นเว็ปท่า และในช่วงปลายทศวรรษ 90 เว็ปท่าต่างๆเติบโตกันอย่างรวดเร็ว เว็ปท่าต่างๆได้ควบซื้อกิจการของบริษัทอินเทอร์เน็ตต่างๆ หลายต่อหลายบริษัทเพื่อขยายขอบข่ายการให้บริการเพื่อที่ว่า คนที่ใช้งานบนโลกอินเตอร์เน็ตนั้นจะใช้งานอยู่ในเว็ปของพวกเค้านานขึ้น
รู้มั๊ยทำไมYAHOOต้องมีสัญลักษณ์ !
เพราะในช่วงนั้นชื่อนี้ดันไปเป็นชื่อตราสินค้าของซอสบาบีคิวนั้นเอง ดังนั้นวิธีที่ทำให้ได้ชื่อ YAHOO นี้มาเป็นเจ้าของจึงต้องมีสัญลักษณ์ ! หรือก็คือเครื่องหมายอัศเจร๊ย์นั้นเอง ตามท้ายด้วย แต่ก็เป็นที่น่าแปลกเวลาคนใช้ YAHOO ที่ไหร่มักลืมเครื่องหมายอัศเจร๊ย์นี้ทุกที!!! สำหรับครายที่อยากเข้าไปดูเว็ป YAHOO ของไทยนั้นกดตาม link นี้ได้เลยครับ http://th.yahoo.com มีอข้อมูลข่าวสารน่าสนใจเยอะพอดูไงก็เข้าไปชมกันได้
เพิ่มเติม
เว็ป YAHOO! เกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน โดยที่ทั้งสองนั้น คิดกันว่าหาอะไรทำในช่วงปิดเทอมดี จึงตกลงทำโปรแกรมเพื่อหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต โดยใส่คำที่ค้นหาและรวบรวมเว็ปต่างๆลงในตัวโปรแกรม และตั้งชื่อโปรแกรมว่า YAHOO เพราะเป็นคำที่ฝรั่งใช้ตะโกนกันบ่อยๆ ปรากฏว่ามีคนเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากฟรีนั้นเอง ทางYAHOO เลยหารายได้จากการเปิดรับโฆษณา กิจการของ YAHOO จึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็ติดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา 150บริษัท โหดมากขอบอก!! สำหรับบริษัทสำนักงานของ YAHOO นั้นตั้งอยู่ที่เมืองซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย กิจการขยายตัวไปได้เรื่อยๆ ตอนนี้มีบริการข่าวสารต่างๆ ห้องchatr room และบริการต่างๆอีกมากมาย แต่ในเรื่องการค้นหาข้อมูลนั้นก็ยังได้รับความนิยมอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าในทุกวันนี้จะมีคู่แข่งมากขึ้นทุกที
ที่มา : http://narakmaika.exteen.com/20090917/yahoo
แสดงความคิดเห็น